ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 75,476 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 03.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2551
ผู้ตัดสิน อลัน ไวลี่ย์
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งรับหน้าที่เป็นกัปตันทีมในนัดนี้ เหมาคนเดียว 2 ประตูช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะโบลตัน ได้ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
มิดฟิลด์หมายเลข 7 ผู้นี้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมให้ทีมปีศาจแดงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม และเขาก็ไม่ทำให้ผู้จัดการทีมต้องผิดหวังด้วยการยิง 2 ประตู ทำลายสถิติของจอร์จ เบสต์ ในฐานะมิดฟิลด์ที่ทำประตูต่อฤดูกาลมากที่สุด
ชัยชนะในนัดนี้ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บ 3 คะแนนยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้ และมีคะแนนนำอาร์เซนอล อยู่ 3 คะแนน โดยในนัดหน้าพวกเขาจะต้องพบกับลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นี้
เซอร์ อเล็กซ์ เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากเมื่อสุดสัปดาห์ 7 ตำแหน่ง โดยมีเพียงจอห์น โอเชีย, เนมานย่า วิดิช, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และแอนเดอร์สัน ที่ยังคงได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดนี้
โทมัสซ์ คุสซ์แซค ได้ลงเฝ้าเสาในนัดนี้แทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ก็คาดว่าทีมปีศาจแดงจะได้เขากลับมาลงสนามในนัดที่จะไปเยือนลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดนี้เช่นกัน แต่ไม่ใช่ในตำแหน่งมิดฟิลด์แต่เป็นตำแหน่งแบ็คขวา ในขณะที่ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางเป็นของแอนเดอร์สัน และดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ โดยมีคาร์ลอส เตเบซ และหลุยส์ ซาฮา ยืนคู่กันในตำแหน่งศูนย์หน้า
การที่ทีมไม่มีทั้งไรอัน กิ๊กส์ และริโอ เฟอร์ดินานด์ ทำให้ในเกมนี้ตำแหน่งกัปตันทีมตกเป็นของโรนัลโด้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเขานับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด และเขาก็สร้างสถิติใหม่ให้ทีมจากการทำประตูได้ในเกมนี้ ตั้งแต่นาทีที่ 9
เมื่อโบลตัน ไม่สามารถสกัดบอลที่นานี่เปิดเข้ามาในบริเวณกรอบเขตโทษได้ ทำให้ตกไปเข้าทางโรนัลโด้ ได้วอลเล่ย์บอลจากจุดโทษเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 1 – 0
ทีมปีศาจแดงยังคงคุมเกมได้มากกว่า นานี่เกือบทำประตูได้ในนาทีที่ 15 แต่ลูกยิงของเขาก็เหินข้ามคานออกไป จากนั้นอีก 3 นาทีโบลตัน ก็เกือบจะตีเสมอได้ จากลูกยิงของเควิน เดวี่ส์ กัปตันทีม แต่ คุสซ์แซค ก็สามารถป้องกันไว้ได้
นาทีที่ 20 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูที่สอง เมื่อโรนัลโด้ ถูก อับดุลลาเย่ เมอิเต้ ทำฟาวล์ล้มลงในระยะ 29 หลากลางประตู และปีกหมายเลข 7 ก็รับหน้าที่ยิงฟรีคิกเอง เขายิงบอลข้ามกำแพงไปเข้าสามเหลี่ยมอย่างที่ อาลี อัล ฮับซี่ ผู้รักษาประตูโบลตันหมดสิทธิป้องกัน แมนฯ ยูไนเต็ด 1 โบลตัน 0
นาทีที่ 25 โบลตัน มีโอกาสบ้างจากลูกยิงของ แมทธิว เทย์เลอร์ แต่ คุสซ์แซค ก็รับไว้ได้ จากนั้นอีก 1 นาที เทย์เลอร์ ก็ได้เปิดบอลเข้ากลางให้ เกรต้าร์ สไตน์สสัน ได้ยิงจากระยะ 25 หลา แต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไป
นาทีที่ 33 จากลูกเตะมุมของนานี่ บอลไปเข้าทางเนมานย่า วิดิช ได้โหม่งจากระยะ 12 หลา แต่ ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ ก็เคลียร์บอลออกไปได้ อีก 2 นาทีถัดมา นานี่ได้ยิง แต่ สไตน์สสัน ก็บล็อคไว้ได้ บอลกระดอนมาเข้าทางนานี่ได้ยิงซ้ำ แต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไป
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูที่ 3 จากลูกยิงของหลุยส์ ซาฮา แต่ อาลี อัล ฮับซี่ ก็ป้องกันไว้ได้ บอลกระดอนมาเข้าทาง ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ได้ยิงซ้ำ แต่ เมอิเต้ ก็บล็อคไว้ได้ บอลไปเข้าทางโรนัลโด้ ได้เปิดต่อให้จอห์น โอเชีย ได้ยิงจากกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ดนำอยู่ 2 – 0
เริ่มเกมในครึ่งหลังโบลตัน เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกโดยส่ง นิคกี้ ฮันท์ ลงเล่นแทน เมอิเต้ แต่เมื่อเริ่มเกมได้ไม่ถึง 1 นาที โบลตัน ก็เสียลูกฟรีคิก เมื่อ สไตน์สสัน ไปทำฟาล์วเตเบซ ในระยะ 22 หลา ในครั้งนี้นานี่รับหน้าที่ยิงฟรีคิก บอลโค้งเข้ากรอบแต่ อัล ฮับซี่ ก็รับบอลไว้ได้
อย่างไรก็ดีทีมเยือนก็สามารถพาบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ในนาทีที่ 55 แต่ลูกฟรีคิกของเอล ฮัดจิ ดิยุฟ ที่เข้าไปตุงตาข่าย เขากลับยิงเร็วไป โดยไม่รอสัญญาณนกหวีดจากผู้ตัดสินก่อน ทำให้ผู้ตัดสิน อลัน ไวลี่ย์ ไม่ให้เป็นประตู และให้เขายิงใหม่ แต่ครั้งนี้ คุสซ์แซค ก็รับไว้ได้
นาทีถัดมาผู้รักษาประตูชาวโปแลนด์ก็ต้องโชว์ซุปเปอร์เซฟ จากลูกวอลเล่ย์ของ นิคกี้ ฮันท์ และเขาก็สามารถปัดไว้ได้ ตามด้วยการยิงลูกเรียดของ เกวิน แม็คแคนน์ ที่เขาสามารถปัดออกไปได้เช่นกัน
มาถึงนาทีนี้ดูเหมือนโบลตัน จะเริ่มบุกได้มากขึ้น และมีโอกาสยิงมากกว่าแมนฯ ยูไนเต็ด แต่อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ยังไม่สามารถทำประตูได้
ทางด้านอีกฝั่งหนึ่งของสนาม โรนัลโด้ เกือบทำแฮตทริกได้ แต่ลูกยิงของเขาก็ถูกสกัดออกมา บอลไปเข้าทางหลุยส์ ซาฮา ได้ซ้ำแต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไป
นาทีที่ 70 แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวผู้เล่น 2 คนโดยส่งเวย์น รูนี่ย์ และพอล สโคลส์ ลงเล่นแทนซาฮา และแอนเดอร์สัน
การเปลี่ยนตัวดูเหมือนจะช่วยเติมความสดให้กับทีม หลังจากเกมที่เนือยๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กลับมาโหมบุกได้เหมือนเดิม นานี่ได้ยิงแต่ อัล ฮับซี่ ก็ป้องกันไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
จบเกมทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ดจึงเอาชนะมาได้ 2 – 0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ และยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไป (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
จอห์น โอเชีย 22
เนมานย่า วิดิช 15
เชราร์ด ปิเก้ 19
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 4
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น.9, 19)
หลุยส์ นานี่ 17
แอนเดอร์สัน 8
หลุยส์ ซาฮา 9
คาร์ลอส เตเบซ 32
สำรอง
เบน ฟอสเตอร์ 12
พอล สโคลส์ 18 น.70 แอนเดอร์สัน 8
เวส บราวน์ 6 น.58 เนมานย่า วิดิช 15
เวย์น รูนี่ย์ 10 น.70 หลุยส์ ซาฮา 9
ปาทริซ เอฟร่า 3
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส
อาลี อัล ฮับซี่ 26
แอนดรูว์ โอไบรอัน 31 ( น.42)
อับดุลลาเย่ เมอิเต้ 5
เกรต้าร์ สไตน์สสัน 15 ( น.70)
โจอี้ โอไบรอัน 24
แมทธิว เทย์เลอร์ 32
ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ 11
เกวิน แม็คแคนน์ 19
แดนนี่ กูธรี่ย์ 17
เควิน เดวี่ส์ 14
เอล ฮัดจิ ดิยุฟ 21
สำรอง
เอียน วอล์คเกอร์ 12
นิคกี้ ฮันท์ 2 น.46 อับดุลลาเย่ เมอิเต้ 5
อิบาน คัมโป 8
สเตลิออส จิอันนาโคปูลอส 7 น.82 แดนนี่ กูธรี่ย์ 17
เกอร์เซกอร์ซ ราเซียค 47
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 2, ยิงตรงกรอบ 9, ยิงหลุดกรอบ 8, โดนบล็อค 6, เตะมุม 6, ฟาวล์ 14, การครองบอล 53.3%
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 7, ยิงหลุดกรอบ 5, โดนบล็อค 4, เตะมุม 3, ฟาวล์ 18, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 2, การครองบอล 46.7%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โทมัสซ์ คุสซ์แซค 7, จอห์น โอเชีย 6, เนมานย่า วิดิช 7, เชราร์ด ปิเก้ 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 7, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 9, หลุยส์ นานี่ 6, แอนเดอร์สัน 7, หลุยส์ ซาฮา 5, คาร์ลอส เตเบซ 7
สำรอง พอล สโคลส์ 6, เวส บราวน์ 6, เวย์น รูนี่ย์ 6
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส อาลี อัล ฮับซี่ 8, แอนดรูว์ โอไบรอัน 6, อับดุลลาเย่ เมอิเต้ 4, เกรต้าร์ สไตน์สสัน 6, โจอี้ โอไบรอัน 6, แมทธิว เทย์เลอร์ 7, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ 6, เกวิน แม็คแคนน์ 6, แดนนี่ กูธรี่ย์ 8, เควิน เดวี่ส์ 7, เอล ฮัดจิ ดิยุฟ 6
สำรอง นิคกี้ ฮันท์ 7, สเตลิออส จิอันนาโคปูลอส 5
Por